วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

คณะโบราณคดี สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยศิลปากร


คณะโบราณคดี สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยศิลปากร

คณะโบราณคดี สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยศิลปากร เริ่มเปิดสอนในปีการศึกษา 2517 ปัจจุบันเปิดสอนในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส ดำเนินการเรียนการสอนตลอด 4 ปีที่มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ กรุงเทพฯ การทำการเรียนการสอนมีปรัชญาเพื่อมุ่งเน้นให้บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาดังกล่าวเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในภาษาฝรั่งเศสทั้งทางด้านการฟัง-การพูด-การอ่าน-การเขียน วรรณคดี อารยธรรม รวมไปถึงทางด้านภาษาฝรั่งเศสเพื่ออาชีพเพื่อนำไปประกอบอาชีพหรือเพื่อศึกษาต่อในระดับสูง
ข้อแตกต่างระหว่างคณะอักษรศาสตร์ สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส กับ คณะโบราณคดี สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส
1. คณะโบราณคดีศึกษาที่วังท่าพระ กรุงเทพฯ และ คณะอักษรศาสตร์ ศึกษาที่วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จ.นครปฐม
2. คณะโบราณคดีศึกษาตลอดหลักสูตร 144 หน่วยกิต คณะอักษรศาสตร์ศึกษาตลอดหลักสูตร 140 หน่วยกิต
3. คณะโบราณคดีเน้นศึกษาทางด้านภาษาเพื่ออาชีพ คณะอักษรศาสตร์เน้นการศึกษาทางด้านวรรณคดี
4. คณะโบราณคดีจะได้วิชาเอกเมื่อเข้ามาตั้งแต่ปี 1 คณะอักษรศาสตร์จะได้วิชาเอกในภาคเรียนที่ 2 ของชั้นปีที่ 2
วิชาเรียนของคณะโบราณคดี สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส
วิชาเอกบังคับ  หน่วยกิตต่ำสุด : 57 หน่วยกิต ศึกษาจากทุกรายวิชา

รหัสวิชา
รายวิชา
หน่วยกิต
341121
FUNDAMENTALS OF FRENCH WRITING
การเขียนภาษาฝรั่งเศสระดับต้น
3 (3-0-6)
341201
FRENCH III
ภาษาฝรั่งเศส 3
3 (2-2-5)
341202
FRENCH IV
ภาษาฝรั่งเศส 4
3 (2-2-5)
341211
INTERMEDIATE FRENCH READING
การอ่านภาษาฝรั่งเศสระดับกลาง
3 (3-0-6)
341221
INTERMEDIATE FRENCH WRITING
การเขียนภาษาฝรั่งเศสระดับกลาง
3 (3-0-6)
341231
FUNDAMENTALS OF FRENCH LISTENING AND SPEAKING
การฟังและการพูดภาษาฝรั่งเศสระดับต้น
3 (2-2-5)
341251
FRENCH CIVILIZATION I
อารยธรรมฝรั่งเศส 1
3 (3-0-6)
341252
FRENCH CIVILIZATION II
อารยธรรมฝรั่งเศส 2
3 (3-0-6)
341301
FRENCH V
ภาษาฝรั่งเศส 5
3 (3-0-6)
341302
FRENCH VI
ภาษาฝรั่งเศส 6
3 (3-0-6)
341321
ADVANCED FRENCH WRITING
การเขียนภาษาฝรั่งเศสระดับสูง
3 (3-0-6)
341331
INTERMEDIATE FRENCH LISTENING AND SPEAKING
การฟังและการพูดภาษาฝรั่งเศสระดับกลาง
3 (2-2-5)
341355
HISTORY OF FRENCH LITERATURE I
ประวัติวรรณคดีฝรั่งเศส 1
3 (3-0-6)
341441
TRANSLATION I
การแปล 1
3 (3-0-6)
341455
HISTORY OF FRENCH LITERATURE II
ประวัติวรรณคดีฝรั่งเศส 2
3 (3-0-6)
341456
CRITICAL READING IN FRENCH LITERARY TEXTS
การอ่านวรรณกรรมฝรั่งเศสเชิงวิจารณ์
3 (3-0-6)
356200
ENGLISH COMMUNICATION SKILLS I
ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ 1
3 (3-0-6)
356201
ENGLISH COMMUNICATION SKILLS II
ทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษ 2
3 (3-0-6)
356202
FUNDAMENTALS OF FRENCH READING
การอ่านภาษาฝรั่งเศสระดับต้น
3 (3-0-6)
วิชาเอกเลือก  หน่วยกิตต่ำสุด : 21 หน่วยกิต เลือกศึกษา 7 รายวิชา
รหัสวิชา
รายวิชา
หน่วยกิต
341261
FRENCH PHONETICS
สัทศาสตร์ฝรั่งเศส
3 (2-2-5)
341281
COMPUTER IN FRENCH STUDIES
คอมพิวเตอร์กับฝรั่งเศสศึกษา
3 (3-0-6)
341311
ADVANCED FRENCH READING
การอ่านภาษาฝรั่งเศสระดับสูง
3 (3-0-6)
341315
FRENCH READING IN CURRENT AFFAIRS
การอ่านภาษาฝรั่งเศสเกี่ยวกับเหตุการณ์ปัจจุบัน
3 (3-0-6)
341316
FRENCH READING IN FINE ARTS
การอ่านภาษาฝรั่งเศสด้านวิจิตรศิลป์
3 (3-0-6)
341317
FRENCH READING IN SOCIAL SCIENCES
การอ่านภาษาฝรั่งเศสด้านสังคมศาสตร์
3 (3-0-6)
341351
FRANCE TODAY
ฝรั่งเศสปัจจุบัน
3 (3-0-6)
341352
ROLES OF FRANCE IN SOUTHEAST ASIA
บทบาทของฝรั่งเศสในเอเชียอาคเนย์
3 (3-0-6)
341361
INTRODUCTION TO FRENCH LINGUISTICS
ภาษาศาสตร์ฝรั่งเศสเบื้องต้น
3 (3-0-6)
341362
CONTRASTIVE ANALYSIS
การวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบ
3 (3-0-6)
341422
ARGUMENTATIVE WRITING
การเขียนเชิงอภิปราย
3 (3-0-6)
341442
TRANSLATION II
การแปล 2
3 (3-0-6)
341457
FRENCH LITERATURE AND OTHER ARTS
วรรณคดีฝรั่งเศสกับศิลปะแขนงอื่น
3 (3-0-6)
341461
TEACHING FRENCH AS A FOREIGN LANGUAGE
การสอนภาษาฝรั่งเศสในฐานะภาษาต่างประเทศ
3 (3-0-6)
341471
FRENCH FOR GUIDES
ภาษาฝรั่งเศสสำหรับมัคคุเทศก์
3 (3-0-6)
341472
FRENCH FOR BUSINESS
ภาษาฝรั่งเศสธุรกิจ
3 (3-0-6)
341473
FRENCH FOR SECRETARIAT
ภาษาฝรั่งเศสสำหรับงานเลขานุการ
3 (3-0-6)
341474
FRENCH FOR HOTELS
ภาษาฝรั่งเศสสำหรับการโรงแรม
3 (3-0-6)
341475
CULTURAL MANAGEMENT IN FRANCE
การจัดการด้านวัฒนธรรมในประเทศฝรั่งเศส
3 (3-0-6)
341476
FRENCH FOR SOUTHEAST ASIAN ART
ภาษาฝรั่งเศสด้านศิลปะเอเชียอาคเนย์
3 (3-0-6)
341491
SEMINAR
สัมมนา
3 (0-6-3)
สถิติโรงเรียนที่มีนักเรียนสอบเอ็นทรานซ์ติดคณะโบราณคดี สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส ในช่วง 4 ปี (2545-2548)  สูงสุด 10 อันดับแรก
1. โรงเรียนสตรีวิทยา 2 จำนวน 9 คน
2. โรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม จำนวน 8 คน
    โรงเรียนสตรีวัดอัปสรสวรรค์ จำนวน 8 คน
4. โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ จำนวน 7 คน
    โรงเรียนเซนโยเซฟคอนแวนต์ จำนวน 7 คน
    โรงเรียนราชินี จำนวน 7 คน
    โรงเรียนสตรีวิทยา จำนวน 7 คน
8. โรงเรียนสตรีมหาพฤฒารามจำนวน 6 คน
9. โรงเรียนเบญจมราชาลัย จำนวน 5 คน
    โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยจำนวน 5 คน
    โรงเรียนหอวัง จำนวน 5 คน
วิชาที่ใช้สอบเข้า
ใช้คะแนนโอเน็ต 3 วิชาคือภาษาไทย,ภาษาอังกฤษและสังคมศึกษา และคะแนนเอเน็ต 1 วิชาคือ วิชาภาษาฝรั่งเศส รับนักศึกษาเฉพาะในระบบแอดมิชชันไม่มีรับโควตาแต่อย่างใด โดยผู้ที่สมัครจะต้องจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแผนการเรียนศิลป์-ภาษาฝรั่งเศสเท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์สมัครเข้าศึกษา และจะรับนักศึกษาปีละ 65 คน

สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150

ในส่วนของพาร์ทเชื่อมโยงนั้น เน้นทำแบบฝึกหัดเยอะๆ แต่วันนี้พี่แป้งขอหอบหิ้ว + กอบโกย แนวข้อสอบ GAT Eng มาฝากน้องๆ ซึ่งได้มาจาก ครูพี่แนน สถาบัน Enconcept  อยากจะบอกว่า ครูพี่แนน ขนเคล็ดลับมาแบบจัดหนักและจัดเต็มมากค่ะ

.
มาเร่งเก็บแต้ม GAT Eng กันเถอะ!!
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150       ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่าแนวโน้มข้อสอบปีนี้น่าจะมีความท้าทายมากกว่าปีที่แล้ว โดยประเมินจากสถานการณ์ปีที่ผ่านมาคะแนนค่อนข้างเฟ้อ หากว่าน้องๆ อยากได้คณะดีๆ ต้องทำ GAT เชื่อมโยงให้ได้เต็ม และทำ GAT Eng ให้ได้ 100++ แต่ถ้าเกิดได้เกิน 120+ จะตัดคู่แข่งไปได้เยอะมาก
      ครูพี่แนน บอกว่าให้น้องๆ ตั้งเป้าหมายไว้แต่อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ให้ใช้หลักการ "ทำน้อยแต่ได้ผลเยอะ" โดยเวลาที่เหลืออีก 23 วัน หากน้องๆ ไม่พร้อมและมีเวลาน้อย แนะนำให้เตรียมตัวในพาร์ทเหล่านี้ก่อน จะกอบโกยคะแนนได้กว่า 75% มีอะไร
บ้างไปดูเลยค่าาาา.......

       เริ่มต้นที่ Reading จะมีคะแนนถึง 30% เคล็ดลับอยู่ที่ อ่านคำถามก่อน แล้วค่อยกลับไปอ่าน Passage เน้นการฝึกทำโจทย์เยอะๆ เพราะสนามจริงต้องทำให้เร็วและต้องทำให้ทัน แล้วก็ทำให้ถูกด้วย โจทย์ที่น้องๆ กลัวกันมาก คือ การถาม Main Idea หรือการตั้งชื่อเรื่อง ถ้าทำไม่ทันจริงๆ ให้สังเกตประโยคแรกและประโยคสุดท้ายของย่อหน้าแรกกับย่อหน้าสุดท้าย เพราะเป็นหลักการใส่ Main Idea ใน Essay เรียกว่า Thesis statement นั่นเองค่ะ
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150

       ต่อมาคือพาร์ท Conversation หรือบทสนทนา น้องๆ ควรเตรียมเรื่อง Idiom  หรือ สำนวนและ Phrasal verb หรือ  Verb ที่มาคู่กับ Preposition แล้วมีความหมายพิเศษ

       สุดท้ายคือ Vocabulary หรือ คำศัพท์ อันนี้ ออกล้านเปอร์เซนต์ คือ ออกทั้งโต้งๆ และออกปนอยู่ในพาร์ท Reading ด้วย อย่างพาร์ทคำศัพท์โดยตรงก็จะมี

        - Odd one out ให้เลือกคำที่ไม่เข้าพวก หรือจะเรียกว่า One doesn’t belong
          จะวัดความรู้เรื่อง Synonym คำที่มีความหมายเหมือนกัน  อันนี้ได้คะแนน
          ได้คะแนนง่ายๆ ที่ข้อละ 1.5 คะแนน ไม่ควรพลาดเลย

        -  Meaning Recognition อันนี้ก็จะวัดคำที่ 1 คำมีหลายความหมาย โดยให้
           ประโยคตัวอย่างมา แล้วถามว่า คำที่ขีดเส้นใต้ไว้นี้ความหมายตรงกับคำนี้
           ที่อยู่ในประโยคไหน เช่น คำว่า Fair อาจจะแปลว่า สวย ปานกลาง ค่อนข้างจะ
           ยุติธรรม หรือ งานวัดก็ได้ ซึ่งส่วนนี้ก็จะช่วยได้ด้วยการใช้นิทาน อย่างคำนี้
           ครูพี่แนน ก็จะแต่งว่า ผู้หญิงสวย ปานกลาง ค่อนข้างจะ ยุติธรรม ไป งานวัด
           แต่น้องๆ ต้องเข้าใจด้วยว่า ค่อนข้างจะนิยมใช้เป็นรูป adv. คือ fairly ค่ะ
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150        
         - Meaning in Context อันนี้คะแนนเยอะมาก ถึง 3.5 คะแนนต่อข้อ เพราะวัด
           การใช้ ส่วนใหญ่โจทย์จะให้มา 2 ช่องว่าง ให้เลือกคำมาเติม ทริคง่ายๆ
           ได้คะแนนเร็วๆ คือ ดูช่องว่างแรกแล้วลองหาคำตอบให้ช่องว่างแรก เลย
           ไม่ต้องดูทีละ 2 ช่อง จะตัดช้อยส์ไปได้มาก ทำให้ทำได้เร็วมาก ไม่ต้อง
           เสียเวลาดูหลายข้อ

       ทำมาทั้งหมดแค่นี้น้องๆ มีติดมือไว้แล้ว 75% ส่วนที่เหลืออีก 25% จะเป็นการวัดเรื่อง Grammar & Structure ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องที่เด็กส่วนใหญ่ทั้งสายวิทย์ และสายศิลป์ไม่ถนัดเลย ดังนั้นถ้าน้องเก็บตรงนี้ได้เพิ่มจะเป็นตัวตัดคู่แข่งได้มาก

       แกรมม่ามีเรื่องเยอะมาก ครูพี่แนน ฝากมาเน้นแค่ 5 เรื่อง เพื่อโกยคะแนนให้ได้มากที่สุดภายใต้เวลาอันน้อยนิด มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

       1. โครงสร้างประโยค ส่วนใหญ่วัดเรื่องประโยคหลักประโยครอง ถ้าประโยคหน้า
           เป็นส่วนหลักประโยคหลังต้องเป็นส่วนรอง (เป็นส่วนขยาย) ถ้าข้างหน้าเป็นส่วน
           รองข้างหลังก็เป็นส่วนหลักสลับกันแบบนี้ โดยประโยคที่มีคำเชื่อมนำนั้นจะเป็น
           ประโยครอง ถ้าไม่มีคำเชื่อม ส่วนรองหรือส่วนขยายมักจะเป็น Participle ส่วน
           ประโยคหลักจะต้องมี Subject + Verb แท้ เสมอ

        2. Verb ส่วนใหญ่ถ้าเป็น V.แท้ คือ V.ที่มีการผันตามประธานและเวลา จะวัด
            เรื่อง Tense ซึ่งมักจะออก Present Perfect Tense หรือไม่ก็ Tenseคู่ในอดีต
            เช่น
                  - เหตุการณ์ดำเนินอยู่แล้วมีเหตุการณ์มาแทรก เหตุการณ์ดำเนินอยู่
                    ใช้ Past continuous เหตุการณ์ที่เข้ามาแทรก ใช้ Past simple 

                  - เหตุการณ์เกิดก่อนเกิดหลัง เหตุการณ์เกิดก่อนใช้ Past perfect
                    เหตุการณ์เกิดหลังใช้ Past simple

                  - เหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันในอดีตทั้งคู่ ใช้ Past continuous ทั้งคู่ค่ะ
                  - Future tense คู่ Future tense ไม่ได้ หลัง Future tense ต้องเป็น
                    Present tense ในประโยคหลักต้องเป็น Future tenseเท่านั้น ใน
                    ประโยคย่อยจะเป็น Present tense เสมอ

        3. Connector คือคำเชื่อมต่างๆ ส่วนใหญ่ข้อสอบมักจะวัดว่า หลังคำเชื่อมนี้
            จะตามมาด้วย Clause คือประโยคย่อย หรือตามด้วยคำนาม หรือคำที่ทำหน้าที่
            เสมือนคำนามอย่าง Gerund สังเกตง่ายๆ อย่าง Connector ที่ตามด้วย
            Preposition หรือ บุพบท เช่นมี of มี to ตามมา อย่าง because of ก็มักจะ
            ตามด้วยนามเสมอ แต่ถ้า because เฉยๆ จะตามด้วย clause เป็นต้น

        4. Word Choice ซึ่งจะออกในส่วนของ error เป็นการออกศัพท์เลือกใช้คำ
            เช่น do - make ต่างกันอย่างไร , like - alike ใช้แบบไหนบ้าง เวลาทำข้อสอบ
            ถ้า check แกรมม่าถูกแสดงว่าผิดที่คำศัพท์แน่นอน

        5. Word Building (การสร้างคำ) หน้าที่ของคำแทรก ต้องรู้ Part of Speech
            มีอะไรบ้าง แต่ละตัวทำหน้าที่อะไรบ้างและอยู่ตำแหน่งใดในประโยค

  ** เพิ่มเติมแหล่งข้อสอบ Reading

      - ฝึกบทความทางการแพทย์สุขภาพ, วิทยาศาสตร์, สัตว์ พืช, สิ่งแวดล้อม
        ภัยพิบัติ โลกร้อน(ออกประจำ), ข่าวอาชญากรรม, วิกฤตทางการเงินของ EU
        USA AEC

     - ข่าวและงานวิจัย National geoghaphic ตามได้ทาง website เช่น BBC, CNN,
       Fox News  โดยเฉพาะสำนักข่าวรอยเตอร์กับ AP ตรงมากกกกกกก!!

     - ส่วนของการ์ตูน หัวใจสำคัญมักจะอยู่ที่ช่องสุดท้าย ซึ่งสามารถไปหาอ่าน
       ตัวอย่างกันได้ที่  beingfive.blogspot.com
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150

  Trick!!! By ครูพี่แนน
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150

      " ในการทำโจทย์ หัวใจของการทำโจทย์คือหลาย ๆ คนคิดว่าอ่านเนื้อหาก่อนแล้วค่อยทำ แต่จริงๆ แล้วใจเราต้องสู้ทำให้เต็มที่อย่าเสียดาย จะดีเองถ้าทำโจทย์เยอะๆ มันจะออกดอกออกผลเอง ทำทุกวันวันละ 1 พ.ศ. พอแล้ว (23 วันย้อน 15 พ.ศ.ได้เกือบ 2 รอบนะเออ) แต่ต้องทำเสมือนจริง ทำให้ทันและถูกด้วย ฝึกไปเรื่อยๆ ยิ่ง ม.5 ตอนนี้ถ้าทำทุกวันแล้วทำไม่ทันก็ให้มันรู้ไปซิ ทำซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะเต็ม ไม่ปล่อยผ่านข้อที่เดาถูก อะไรไม่รู้จดโน้ต เปิดดิกฯ จดที่เราไม่รู้ แล้วอ่านไปเรื่อย ๆ จะเก่งขึ้นไม่รู้ตัว เพลงศัพท์ + นิทานศัพท์ช่วยได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนทำให้เต็มที่ค่ะ"

            เป็นไงล่ะ พี่แป้ง บอกแล้วว่าครูพี่แนนจัดหนักและจัดเต็ม อยากให้น้องๆ ได้คะแนนเยอะ ๆ ณ โอกาสนี้ก็ต้องขอขอบคุณ ครูพี่แนน Enconcept มากๆ ค่ะ ที่มาช่วยชี้ทางสว่างให้เด็กน้อยตาดำๆ มีแรงฮึดขึ้น

สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150

ในส่วนของพาร์ทเชื่อมโยงนั้น เน้นทำแบบฝึกหัดเยอะๆ แต่วันนี้พี่แป้งขอหอบหิ้ว + กอบโกย แนวข้อสอบ GAT Eng มาฝากน้องๆ ซึ่งได้มาจาก ครูพี่แนน สถาบัน Enconcept  อยากจะบอกว่า ครูพี่แนน ขนเคล็ดลับมาแบบจัดหนักและจัดเต็มมากค่ะ

.
มาเร่งเก็บแต้ม GAT Eng กันเถอะ!!
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150       ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่าแนวโน้มข้อสอบปีนี้น่าจะมีความท้าทายมากกว่าปีที่แล้ว โดยประเมินจากสถานการณ์ปีที่ผ่านมาคะแนนค่อนข้างเฟ้อ หากว่าน้องๆ อยากได้คณะดีๆ ต้องทำ GAT เชื่อมโยงให้ได้เต็ม และทำ GAT Eng ให้ได้ 100++ แต่ถ้าเกิดได้เกิน 120+ จะตัดคู่แข่งไปได้เยอะมาก
      ครูพี่แนน บอกว่าให้น้องๆ ตั้งเป้าหมายไว้แต่อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ให้ใช้หลักการ "ทำน้อยแต่ได้ผลเยอะ" โดยเวลาที่เหลืออีก 23 วัน หากน้องๆ ไม่พร้อมและมีเวลาน้อย แนะนำให้เตรียมตัวในพาร์ทเหล่านี้ก่อน จะกอบโกยคะแนนได้กว่า 75% มีอะไร
บ้างไปดูเลยค่าาาา.......

       เริ่มต้นที่ Reading จะมีคะแนนถึง 30% เคล็ดลับอยู่ที่ อ่านคำถามก่อน แล้วค่อยกลับไปอ่าน Passage เน้นการฝึกทำโจทย์เยอะๆ เพราะสนามจริงต้องทำให้เร็วและต้องทำให้ทัน แล้วก็ทำให้ถูกด้วย โจทย์ที่น้องๆ กลัวกันมาก คือ การถาม Main Idea หรือการตั้งชื่อเรื่อง ถ้าทำไม่ทันจริงๆ ให้สังเกตประโยคแรกและประโยคสุดท้ายของย่อหน้าแรกกับย่อหน้าสุดท้าย เพราะเป็นหลักการใส่ Main Idea ใน Essay เรียกว่า Thesis statement นั่นเองค่ะ
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150

       ต่อมาคือพาร์ท Conversation หรือบทสนทนา น้องๆ ควรเตรียมเรื่อง Idiom  หรือ สำนวนและ Phrasal verb หรือ  Verb ที่มาคู่กับ Preposition แล้วมีความหมายพิเศษ

       สุดท้ายคือ Vocabulary หรือ คำศัพท์ อันนี้ ออกล้านเปอร์เซนต์ คือ ออกทั้งโต้งๆ และออกปนอยู่ในพาร์ท Reading ด้วย อย่างพาร์ทคำศัพท์โดยตรงก็จะมี

        - Odd one out ให้เลือกคำที่ไม่เข้าพวก หรือจะเรียกว่า One doesn’t belong
          จะวัดความรู้เรื่อง Synonym คำที่มีความหมายเหมือนกัน  อันนี้ได้คะแนน
          ได้คะแนนง่ายๆ ที่ข้อละ 1.5 คะแนน ไม่ควรพลาดเลย

        -  Meaning Recognition อันนี้ก็จะวัดคำที่ 1 คำมีหลายความหมาย โดยให้
           ประโยคตัวอย่างมา แล้วถามว่า คำที่ขีดเส้นใต้ไว้นี้ความหมายตรงกับคำนี้
           ที่อยู่ในประโยคไหน เช่น คำว่า Fair อาจจะแปลว่า สวย ปานกลาง ค่อนข้างจะ
           ยุติธรรม หรือ งานวัดก็ได้ ซึ่งส่วนนี้ก็จะช่วยได้ด้วยการใช้นิทาน อย่างคำนี้
           ครูพี่แนน ก็จะแต่งว่า ผู้หญิงสวย ปานกลาง ค่อนข้างจะ ยุติธรรม ไป งานวัด
           แต่น้องๆ ต้องเข้าใจด้วยว่า ค่อนข้างจะนิยมใช้เป็นรูป adv. คือ fairly ค่ะ
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150        
         - Meaning in Context อันนี้คะแนนเยอะมาก ถึง 3.5 คะแนนต่อข้อ เพราะวัด
           การใช้ ส่วนใหญ่โจทย์จะให้มา 2 ช่องว่าง ให้เลือกคำมาเติม ทริคง่ายๆ
           ได้คะแนนเร็วๆ คือ ดูช่องว่างแรกแล้วลองหาคำตอบให้ช่องว่างแรก เลย
           ไม่ต้องดูทีละ 2 ช่อง จะตัดช้อยส์ไปได้มาก ทำให้ทำได้เร็วมาก ไม่ต้อง
           เสียเวลาดูหลายข้อ

       ทำมาทั้งหมดแค่นี้น้องๆ มีติดมือไว้แล้ว 75% ส่วนที่เหลืออีก 25% จะเป็นการวัดเรื่อง Grammar & Structure ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องที่เด็กส่วนใหญ่ทั้งสายวิทย์ และสายศิลป์ไม่ถนัดเลย ดังนั้นถ้าน้องเก็บตรงนี้ได้เพิ่มจะเป็นตัวตัดคู่แข่งได้มาก

       แกรมม่ามีเรื่องเยอะมาก ครูพี่แนน ฝากมาเน้นแค่ 5 เรื่อง เพื่อโกยคะแนนให้ได้มากที่สุดภายใต้เวลาอันน้อยนิด มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

       1. โครงสร้างประโยค ส่วนใหญ่วัดเรื่องประโยคหลักประโยครอง ถ้าประโยคหน้า
           เป็นส่วนหลักประโยคหลังต้องเป็นส่วนรอง (เป็นส่วนขยาย) ถ้าข้างหน้าเป็นส่วน
           รองข้างหลังก็เป็นส่วนหลักสลับกันแบบนี้ โดยประโยคที่มีคำเชื่อมนำนั้นจะเป็น
           ประโยครอง ถ้าไม่มีคำเชื่อม ส่วนรองหรือส่วนขยายมักจะเป็น Participle ส่วน
           ประโยคหลักจะต้องมี Subject + Verb แท้ เสมอ

        2. Verb ส่วนใหญ่ถ้าเป็น V.แท้ คือ V.ที่มีการผันตามประธานและเวลา จะวัด
            เรื่อง Tense ซึ่งมักจะออก Present Perfect Tense หรือไม่ก็ Tenseคู่ในอดีต
            เช่น
                  - เหตุการณ์ดำเนินอยู่แล้วมีเหตุการณ์มาแทรก เหตุการณ์ดำเนินอยู่
                    ใช้ Past continuous เหตุการณ์ที่เข้ามาแทรก ใช้ Past simple 

                  - เหตุการณ์เกิดก่อนเกิดหลัง เหตุการณ์เกิดก่อนใช้ Past perfect
                    เหตุการณ์เกิดหลังใช้ Past simple

                  - เหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันในอดีตทั้งคู่ ใช้ Past continuous ทั้งคู่ค่ะ
                  - Future tense คู่ Future tense ไม่ได้ หลัง Future tense ต้องเป็น
                    Present tense ในประโยคหลักต้องเป็น Future tenseเท่านั้น ใน
                    ประโยคย่อยจะเป็น Present tense เสมอ

        3. Connector คือคำเชื่อมต่างๆ ส่วนใหญ่ข้อสอบมักจะวัดว่า หลังคำเชื่อมนี้
            จะตามมาด้วย Clause คือประโยคย่อย หรือตามด้วยคำนาม หรือคำที่ทำหน้าที่
            เสมือนคำนามอย่าง Gerund สังเกตง่ายๆ อย่าง Connector ที่ตามด้วย
            Preposition หรือ บุพบท เช่นมี of มี to ตามมา อย่าง because of ก็มักจะ
            ตามด้วยนามเสมอ แต่ถ้า because เฉยๆ จะตามด้วย clause เป็นต้น

        4. Word Choice ซึ่งจะออกในส่วนของ error เป็นการออกศัพท์เลือกใช้คำ
            เช่น do - make ต่างกันอย่างไร , like - alike ใช้แบบไหนบ้าง เวลาทำข้อสอบ
            ถ้า check แกรมม่าถูกแสดงว่าผิดที่คำศัพท์แน่นอน

        5. Word Building (การสร้างคำ) หน้าที่ของคำแทรก ต้องรู้ Part of Speech
            มีอะไรบ้าง แต่ละตัวทำหน้าที่อะไรบ้างและอยู่ตำแหน่งใดในประโยค

  ** เพิ่มเติมแหล่งข้อสอบ Reading

      - ฝึกบทความทางการแพทย์สุขภาพ, วิทยาศาสตร์, สัตว์ พืช, สิ่งแวดล้อม
        ภัยพิบัติ โลกร้อน(ออกประจำ), ข่าวอาชญากรรม, วิกฤตทางการเงินของ EU
        USA AEC

     - ข่าวและงานวิจัย National geoghaphic ตามได้ทาง website เช่น BBC, CNN,
       Fox News  โดยเฉพาะสำนักข่าวรอยเตอร์กับ AP ตรงมากกกกกกก!!

     - ส่วนของการ์ตูน หัวใจสำคัญมักจะอยู่ที่ช่องสุดท้าย ซึ่งสามารถไปหาอ่าน
       ตัวอย่างกันได้ที่  beingfive.blogspot.com
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150

  Trick!!! By ครูพี่แนน
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150

      " ในการทำโจทย์ หัวใจของการทำโจทย์คือหลาย ๆ คนคิดว่าอ่านเนื้อหาก่อนแล้วค่อยทำ แต่จริงๆ แล้วใจเราต้องสู้ทำให้เต็มที่อย่าเสียดาย จะดีเองถ้าทำโจทย์เยอะๆ มันจะออกดอกออกผลเอง ทำทุกวันวันละ 1 พ.ศ. พอแล้ว (23 วันย้อน 15 พ.ศ.ได้เกือบ 2 รอบนะเออ) แต่ต้องทำเสมือนจริง ทำให้ทันและถูกด้วย ฝึกไปเรื่อยๆ ยิ่ง ม.5 ตอนนี้ถ้าทำทุกวันแล้วทำไม่ทันก็ให้มันรู้ไปซิ ทำซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะเต็ม ไม่ปล่อยผ่านข้อที่เดาถูก อะไรไม่รู้จดโน้ต เปิดดิกฯ จดที่เราไม่รู้ แล้วอ่านไปเรื่อย ๆ จะเก่งขึ้นไม่รู้ตัว เพลงศัพท์ + นิทานศัพท์ช่วยได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนทำให้เต็มที่ค่ะ"

            เป็นไงล่ะ พี่แป้ง บอกแล้วว่าครูพี่แนนจัดหนักและจัดเต็ม อยากให้น้องๆ ได้คะแนนเยอะ ๆ ณ โอกาสนี้ก็ต้องขอขอบคุณ ครูพี่แนน Enconcept มากๆ ค่ะ ที่มาช่วยชี้ทางสว่างให้เด็กน้อยตาดำๆ มีแรงฮึดขึ้น

สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150

ในส่วนของพาร์ทเชื่อมโยงนั้น เน้นทำแบบฝึกหัดเยอะๆ แต่วันนี้พี่แป้งขอหอบหิ้ว + กอบโกย แนวข้อสอบ GAT Eng มาฝากน้องๆ ซึ่งได้มาจาก ครูพี่แนน สถาบัน Enconcept  อยากจะบอกว่า ครูพี่แนน ขนเคล็ดลับมาแบบจัดหนักและจัดเต็มมากค่ะ

.
มาเร่งเก็บแต้ม GAT Eng กันเถอะ!!
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150       ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่าแนวโน้มข้อสอบปีนี้น่าจะมีความท้าทายมากกว่าปีที่แล้ว โดยประเมินจากสถานการณ์ปีที่ผ่านมาคะแนนค่อนข้างเฟ้อ หากว่าน้องๆ อยากได้คณะดีๆ ต้องทำ GAT เชื่อมโยงให้ได้เต็ม และทำ GAT Eng ให้ได้ 100++ แต่ถ้าเกิดได้เกิน 120+ จะตัดคู่แข่งไปได้เยอะมาก
      ครูพี่แนน บอกว่าให้น้องๆ ตั้งเป้าหมายไว้แต่อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ให้ใช้หลักการ "ทำน้อยแต่ได้ผลเยอะ" โดยเวลาที่เหลืออีก 23 วัน หากน้องๆ ไม่พร้อมและมีเวลาน้อย แนะนำให้เตรียมตัวในพาร์ทเหล่านี้ก่อน จะกอบโกยคะแนนได้กว่า 75% มีอะไร
บ้างไปดูเลยค่าาาา.......

       เริ่มต้นที่ Reading จะมีคะแนนถึง 30% เคล็ดลับอยู่ที่ อ่านคำถามก่อน แล้วค่อยกลับไปอ่าน Passage เน้นการฝึกทำโจทย์เยอะๆ เพราะสนามจริงต้องทำให้เร็วและต้องทำให้ทัน แล้วก็ทำให้ถูกด้วย โจทย์ที่น้องๆ กลัวกันมาก คือ การถาม Main Idea หรือการตั้งชื่อเรื่อง ถ้าทำไม่ทันจริงๆ ให้สังเกตประโยคแรกและประโยคสุดท้ายของย่อหน้าแรกกับย่อหน้าสุดท้าย เพราะเป็นหลักการใส่ Main Idea ใน Essay เรียกว่า Thesis statement นั่นเองค่ะ
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150

       ต่อมาคือพาร์ท Conversation หรือบทสนทนา น้องๆ ควรเตรียมเรื่อง Idiom  หรือ สำนวนและ Phrasal verb หรือ  Verb ที่มาคู่กับ Preposition แล้วมีความหมายพิเศษ

       สุดท้ายคือ Vocabulary หรือ คำศัพท์ อันนี้ ออกล้านเปอร์เซนต์ คือ ออกทั้งโต้งๆ และออกปนอยู่ในพาร์ท Reading ด้วย อย่างพาร์ทคำศัพท์โดยตรงก็จะมี

        - Odd one out ให้เลือกคำที่ไม่เข้าพวก หรือจะเรียกว่า One doesn’t belong
          จะวัดความรู้เรื่อง Synonym คำที่มีความหมายเหมือนกัน  อันนี้ได้คะแนน
          ได้คะแนนง่ายๆ ที่ข้อละ 1.5 คะแนน ไม่ควรพลาดเลย

        -  Meaning Recognition อันนี้ก็จะวัดคำที่ 1 คำมีหลายความหมาย โดยให้
           ประโยคตัวอย่างมา แล้วถามว่า คำที่ขีดเส้นใต้ไว้นี้ความหมายตรงกับคำนี้
           ที่อยู่ในประโยคไหน เช่น คำว่า Fair อาจจะแปลว่า สวย ปานกลาง ค่อนข้างจะ
           ยุติธรรม หรือ งานวัดก็ได้ ซึ่งส่วนนี้ก็จะช่วยได้ด้วยการใช้นิทาน อย่างคำนี้
           ครูพี่แนน ก็จะแต่งว่า ผู้หญิงสวย ปานกลาง ค่อนข้างจะ ยุติธรรม ไป งานวัด
           แต่น้องๆ ต้องเข้าใจด้วยว่า ค่อนข้างจะนิยมใช้เป็นรูป adv. คือ fairly ค่ะ
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150        
         - Meaning in Context อันนี้คะแนนเยอะมาก ถึง 3.5 คะแนนต่อข้อ เพราะวัด
           การใช้ ส่วนใหญ่โจทย์จะให้มา 2 ช่องว่าง ให้เลือกคำมาเติม ทริคง่ายๆ
           ได้คะแนนเร็วๆ คือ ดูช่องว่างแรกแล้วลองหาคำตอบให้ช่องว่างแรก เลย
           ไม่ต้องดูทีละ 2 ช่อง จะตัดช้อยส์ไปได้มาก ทำให้ทำได้เร็วมาก ไม่ต้อง
           เสียเวลาดูหลายข้อ

       ทำมาทั้งหมดแค่นี้น้องๆ มีติดมือไว้แล้ว 75% ส่วนที่เหลืออีก 25% จะเป็นการวัดเรื่อง Grammar & Structure ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องที่เด็กส่วนใหญ่ทั้งสายวิทย์ และสายศิลป์ไม่ถนัดเลย ดังนั้นถ้าน้องเก็บตรงนี้ได้เพิ่มจะเป็นตัวตัดคู่แข่งได้มาก

       แกรมม่ามีเรื่องเยอะมาก ครูพี่แนน ฝากมาเน้นแค่ 5 เรื่อง เพื่อโกยคะแนนให้ได้มากที่สุดภายใต้เวลาอันน้อยนิด มีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

       1. โครงสร้างประโยค ส่วนใหญ่วัดเรื่องประโยคหลักประโยครอง ถ้าประโยคหน้า
           เป็นส่วนหลักประโยคหลังต้องเป็นส่วนรอง (เป็นส่วนขยาย) ถ้าข้างหน้าเป็นส่วน
           รองข้างหลังก็เป็นส่วนหลักสลับกันแบบนี้ โดยประโยคที่มีคำเชื่อมนำนั้นจะเป็น
           ประโยครอง ถ้าไม่มีคำเชื่อม ส่วนรองหรือส่วนขยายมักจะเป็น Participle ส่วน
           ประโยคหลักจะต้องมี Subject + Verb แท้ เสมอ

        2. Verb ส่วนใหญ่ถ้าเป็น V.แท้ คือ V.ที่มีการผันตามประธานและเวลา จะวัด
            เรื่อง Tense ซึ่งมักจะออก Present Perfect Tense หรือไม่ก็ Tenseคู่ในอดีต
            เช่น
                  - เหตุการณ์ดำเนินอยู่แล้วมีเหตุการณ์มาแทรก เหตุการณ์ดำเนินอยู่
                    ใช้ Past continuous เหตุการณ์ที่เข้ามาแทรก ใช้ Past simple 

                  - เหตุการณ์เกิดก่อนเกิดหลัง เหตุการณ์เกิดก่อนใช้ Past perfect
                    เหตุการณ์เกิดหลังใช้ Past simple

                  - เหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันในอดีตทั้งคู่ ใช้ Past continuous ทั้งคู่ค่ะ
                  - Future tense คู่ Future tense ไม่ได้ หลัง Future tense ต้องเป็น
                    Present tense ในประโยคหลักต้องเป็น Future tenseเท่านั้น ใน
                    ประโยคย่อยจะเป็น Present tense เสมอ

        3. Connector คือคำเชื่อมต่างๆ ส่วนใหญ่ข้อสอบมักจะวัดว่า หลังคำเชื่อมนี้
            จะตามมาด้วย Clause คือประโยคย่อย หรือตามด้วยคำนาม หรือคำที่ทำหน้าที่
            เสมือนคำนามอย่าง Gerund สังเกตง่ายๆ อย่าง Connector ที่ตามด้วย
            Preposition หรือ บุพบท เช่นมี of มี to ตามมา อย่าง because of ก็มักจะ
            ตามด้วยนามเสมอ แต่ถ้า because เฉยๆ จะตามด้วย clause เป็นต้น

        4. Word Choice ซึ่งจะออกในส่วนของ error เป็นการออกศัพท์เลือกใช้คำ
            เช่น do - make ต่างกันอย่างไร , like - alike ใช้แบบไหนบ้าง เวลาทำข้อสอบ
            ถ้า check แกรมม่าถูกแสดงว่าผิดที่คำศัพท์แน่นอน

        5. Word Building (การสร้างคำ) หน้าที่ของคำแทรก ต้องรู้ Part of Speech
            มีอะไรบ้าง แต่ละตัวทำหน้าที่อะไรบ้างและอยู่ตำแหน่งใดในประโยค

  ** เพิ่มเติมแหล่งข้อสอบ Reading

      - ฝึกบทความทางการแพทย์สุขภาพ, วิทยาศาสตร์, สัตว์ พืช, สิ่งแวดล้อม
        ภัยพิบัติ โลกร้อน(ออกประจำ), ข่าวอาชญากรรม, วิกฤตทางการเงินของ EU
        USA AEC

     - ข่าวและงานวิจัย National geoghaphic ตามได้ทาง website เช่น BBC, CNN,
       Fox News  โดยเฉพาะสำนักข่าวรอยเตอร์กับ AP ตรงมากกกกกกก!!

     - ส่วนของการ์ตูน หัวใจสำคัญมักจะอยู่ที่ช่องสุดท้าย ซึ่งสามารถไปหาอ่าน
       ตัวอย่างกันได้ที่  beingfive.blogspot.com
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150

  Trick!!! By ครูพี่แนน
สูตรเด็ด!! เก็บแต้ม GAT Eng ให้เต็ม 150

      " ในการทำโจทย์ หัวใจของการทำโจทย์คือหลาย ๆ คนคิดว่าอ่านเนื้อหาก่อนแล้วค่อยทำ แต่จริงๆ แล้วใจเราต้องสู้ทำให้เต็มที่อย่าเสียดาย จะดีเองถ้าทำโจทย์เยอะๆ มันจะออกดอกออกผลเอง ทำทุกวันวันละ 1 พ.ศ. พอแล้ว (23 วันย้อน 15 พ.ศ.ได้เกือบ 2 รอบนะเออ) แต่ต้องทำเสมือนจริง ทำให้ทันและถูกด้วย ฝึกไปเรื่อยๆ ยิ่ง ม.5 ตอนนี้ถ้าทำทุกวันแล้วทำไม่ทันก็ให้มันรู้ไปซิ ทำซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะเต็ม ไม่ปล่อยผ่านข้อที่เดาถูก อะไรไม่รู้จดโน้ต เปิดดิกฯ จดที่เราไม่รู้ แล้วอ่านไปเรื่อย ๆ จะเก่งขึ้นไม่รู้ตัว เพลงศัพท์ + นิทานศัพท์ช่วยได้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนทำให้เต็มที่ค่ะ"

            เป็นไงล่ะ พี่แป้ง บอกแล้วว่าครูพี่แนนจัดหนักและจัดเต็ม อยากให้น้องๆ ได้คะแนนเยอะ ๆ ณ โอกาสนี้ก็ต้องขอขอบคุณ ครูพี่แนน Enconcept มากๆ ค่ะ ที่มาช่วยชี้ทางสว่างให้เด็กน้อยตาดำๆ มีแรงฮึดขึ้น